IoT นั้นพร้อมสำหรับทุกคน

By รอล์ฟ ฮอร์น

Contributed By DigiKey

โลกแห่งเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่าที่เคยในปัจจุบัน และการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่สำหรับการใช้งานไร้สายนั้นไม่ลดลงเลย Internet of Things (IoT) เป็นตัวขับเคลื่อนนวัตกรรมในแทบทุกส่วนของชีวิตเรา การเชื่อมต่อง่าย ๆ กับ "สรรพสิ่ง" ที่ไม่เคยเชื่อมต่อมาก่อนนำไปสู่ข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ที่แปลเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ IoT เป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกนั่นไม่เพียงแต่จะเป็นการทดสอบความทนทานของระบบเดิมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างอนาคตของบริษัททั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย มีการประมาณการว่าจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ IoT กว่า 5 หมื่นล้านเครื่องภายในสิ้นปี 2020 และ 1 แสนล้านเครื่องภายในปี 2025

การเปลี่ยนแปลงมาตรการการส่งสัญญาณเพื่อเอื้อให้กับอุปกรณ์ IoT นั้นทำให้การทดลองออกแบบวงจรกล้ำสัญญาณสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอุปกรณ์ไร้สายก็ง่ายขึ้นกว่าเดิม และมีเซ็นเซอร์ใหม่ ๆ มากมายที่สามารถจับคู่กับอุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สาย นอกจากนั้นทุกคนก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้มากกว่าที่เคย ในบทความนี้จะกล่าวถึงการพัฒนาเหล่านี้ รวมทั้งวิธีการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ราคาไม่แพงและแพร่หลายในปัจจุบัน

เทคโนโลยีวิทยุไร้สายแบบวงกว้างที่ใช้พลังงานต่ำ (Low Power Wide Area Network, LPWAN) นั้นมีอยู่ในระบบโครงสร้างพื้นฐานเซลลูล่าร์มาสักระยะหนึ่งแล้ว Narrow Band Internet of Things (NB-IoT), Long Term Evolution Machine Type Connection (LTE-M and LTE-MTC) และ enhanced Machine Type Communication (eMTC) นั้นเป็นที่นิยม ข้อดีของเทคโนโลยีเหล่านี้คือการใช้ประโยชน์จากเสาสัญญาณมือถือที่มีอยู่ ซึ่งใช้สำหรับการรับส่งข้อมูลด้วยเสียงและแบนด์วิธสูง อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ต้องการการรายงานและการควบคุมเป็นครั้งคราวนั้นไม่จำเป็นต้องใช้แบนด์วิธสูง และเนื่องจากการที่อุปกรณ์ส่วนใหญ่นั้นใช้แบตเตอรี่ จึงมีความต้องการมาตรฐานการใช้พลังงานและแบนด์วิธที่ต่ำกว่าที่มาตรฐานเทคโนโลยีเหล่านี้

เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ไม่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเซลลูลาร์ที่มีอยู่ จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นใหม่ เช่น Sigfox, LoRa/LoRaWAN และ NB-Fi เป็นต้น ข้อเสียคือต้องมีการอัปลิงค์เพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่กว้างขึ้น แม้ว่าผู้ให้บริการเครือข่ายแบบที่ไม่ใช่เซลลูลาร์ให้บริการอัปลิงค์นี้ แต่ก็ยังต้องเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อื่น

อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการเครือข่ายเซลลูลาร์นั้นเป็นบริษัทใหญ่ และการแข่งขันกับพวกเขาอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นไปได้ยาก แนวทางที่ดีที่สุดคือการซื้อ "เวลา" บนเครือข่ายของพวกเขาโดยการใช้โมเด็มที่เป็นไปตามมาตรฐาน แล้วจ่ายค่าใช้บริการรายเดือน

เครือข่ายแบบที่ไม่ใช่เซลลูลาร์สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยเงินทุนที่ไม่มากนักและมีข้อจำกัด ที่ภูมิประเทศไม่ครอบคลุมทั่วโลกจนกว่าจะเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะมีตัวอย่างเครือข่ายมากมายที่ไม่ต้องการการเชื่อมต่อทั่วโลก ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์การผลิตและการประกอบของโรงงานอุตสาหรรม ในความเป็นจริงแล้วเครือข่ายควรแยกออกจากการใช้งานเหล่านี้

ข่าวดีก็คือการเข้าถึงเครือข่ายเซลลูล่าร์ดังกล่าว และชิปและโมดูลสำหรับสร้างเครือข่ายพลังงานต่ำนั้นพร้อมใช้งาน และค่าบริการการใช้งานข้อมูลเครือข่ายอาจมีราคาเพียง 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งใช้เพียงโมเด็มเซลลูล่าร์ที่ได้รับการรับรองจากผู้ให้บริการและอุปกรณ์ที่สามารถ "ออนไลน์" ได้ทั่วโลก

โซลูชันอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบของโมดูลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการออกแบบในระดับชิป ผู้ออกแบบอาจจะได้สัญญาณวิทยุสำเร็จรูปและผ่านการรับรอง สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดไหวพริบทางด้านเทคนิค RF ที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ในการตรวจสอบล่าสุด หลังจากค้นหาชิปที่ใช้ในโมดูล แล้วดูว่าลูกค้าแต่ละรายซื้อสินค้าประเภทใด น่าแปลกใจที่เห็นว่าบริษัทที่มีไหวพริบที่จำเป็นไม่เพียงแต่ซื้อชิปตัวเดียวกันที่ใช้กับโมดูลเท่านั้น แต่พวกเขายังซื้อโมดูลด้วย และมีการซื้อผลิตภัณฑ์ทั้งสองในปริมาณหลายพันหน่วยปริมาณการผลิต สิ่งนี้สนับสนุนแนวคิดที่ว่าการออกสู่ตลาดในช่วงต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนมากกว่าเพื่อทดสอบตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นดีกว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำตั้งแต่เริ่มต้น หากตลาดที่ทดสอบนั้นใหญ่พอ ผลิตภัณฑ์ก็อาจมีต้นทุนที่เหมาะสมโดยมุ่งเน้นไปที่ระดับชิป แต่ยังมีระดับที่ต่ำกว่าระดับชิปที่ในบทความนี้เรียกว่า ระดับคลื่นสัญญาณ

Software Defined Radios (SDR) ช่วยให้นักพัฒนาได้ทดลองโดยใช้รูปแบบวงจรกล้ำสัญญาณใหม่ทั้งหมด หากมีความต้องการเฉพาะและผู้ออกแบบมีความเชี่ยวชาญ ก็สามารถพัฒนามาตรฐานสัญญาณวิทยุของตนเองได้ แม้ว่าไม่มีความเชี่ยวชาญ แต่การทดลองโดยใช้ SDR สามารถสอนนักออกแบบได้มากและเป็นเรื่องสนุก ตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมงานของผู้เขียนบทความนี้มีสิทธิบัตรเกี่ยวกับการถอดรหัสการออกอากาศสเตอริโอ FM โดยการสอดแทรกค่าสัญญาณเบสแบนด์ที่แม่นยำ เมื่อสัญญาณเท่ากับรูปคลื่นซ้ายหรือขวาและไม่มีนาฬิกาซิงโครไนซ์ระบบกับคลื่นพาหะ RF นี่คือแนวทางซอฟต์แวร์ในการสลายสัญญาณคอมโพสิต และทั้งหมดนี้สามารถนำไปใช้ใน SDR ได้แล้วในวันนี้ สิทธิบัตรดังกล่าวมีอายุเกือบ 30 ปีและมีความท้าทายที่จะพัฒนา โดยเป็นเรื่องง่ายที่จะพัฒนาในวันนี้โดยใช้ SDR ที่มีวางจำหน่าย

หนึ่งใน SDR ดังกล่าวคือ Analog Devices Advanced Learning Module PLUTO (ADALM-PLUTO) จาก Analog Devices และมีจำหน่ายสำหรับการจัดส่งโดยมีราคาประมาณ 150 ดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 อุปกรณ์ดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลผ่านลิงค์ USB ที่มี FPGA ที่กำหนดค่าใหม่ได้อย่างง่ายดาย ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางสำหรับภาษา Python และสามารถส่งและรับสัญญาณในช่วง 325 MHz ถึง 3.8 GHz หากนักออกแบบต้องการเรียนรู้และใช้ RF จริง ๆ ก็สามารถเริ่มได้ที่ระดับนี้

กลับไปที่แนวคิดของผลิตภัณฑ์เฉพาะ เซ็นเซอร์หลายร้อยตัวในรูปแบบของชิปและโมดูลที่แพร่หลาย โดยมีเซ็นเซอร์ที่แตกต่างกันนับร้อยนับพันจากผู้จัดจำหน่ายหลายรายรวมถึง DigiKey มีเซ็นเซอร์มากกว่า 210,000 แบบ

นี่คือเซ็นเซอร์ประเภทต่าง ๆ ที่พร้อมจำหน่าย:

เซ็นเซอร์ใด ๆ เหล่านี้หรือเซ็นเซอร์ที่ใช้ร่วมกันเหล่านี้สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตผ่านตัวเลือกไร้สายที่หลากหลาย

ตัวอย่างเช่น โปรเจ็คออนไลน์ที่แสดงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ “ตัวควบคุมม่านบังตา” ที่อยู่ใน maker.io ที่ "Trinamic’s TMC5161 + Microchip’s AVR-IoT WG + DigiKey’s IoT Studio Temp" (รูปที่ 1)

รูปภาพโปรเจ็คควบคุมม่านบังตาระยะไกลรูปที่ 1: โปรเจ็คควบคุมม่านบังตาระยะไกลที่อธิบายในโปรเจ็ค maker.io "เริ่มต้นและสร้างสรรค์การออกแบบการควบคุมม่านบังตาของคุณ" (แหล่งที่มาของภาพ: maker.io)

ชุดอุปกรณ์พัฒนาของ Microchip Technology ใช้งานร่วมกับการใช้งานอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติภายในบ้านอัจฉริยะ IoT และสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่: ชุดพัฒนาระบบอัตโนมัติในบ้าน IoT (รูปที่ 2)

รูปภาพของชุดพัฒนาระบบอัตโนมัติในบ้าน IoT ของ Microchipรูปที่ 2: ชุดพัฒนาระบบอัตโนมัติในบ้าน IoT ของ Microchip (แหล่งที่มาของภาพ: Microchip)

สรุป

ทุกคนสามารถเข้าถึง IoT ได้และชุดอุปกรณ์พัฒนาที่กล่าวในบทความนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเครื่องมือที่ใช้งานในปัจจุบันสำหรับนักออกแบบ IoT

สุดท้ายนี้ขอให้คุณโชคดีในการพัฒนา "สรรพสิ่ง" ที่ยิ่งใหญ่ต่อไป เพื่อเชื่อมต่อกับ Internet of Things ในโลกแห่งการเชื่อมต่อนี้

DigiKey logo

Disclaimer: The opinions, beliefs, and viewpoints expressed by the various authors and/or forum participants on this website do not necessarily reflect the opinions, beliefs, and viewpoints of DigiKey or official policies of DigiKey.

About this author

Image of Rolf Horn

รอล์ฟ ฮอร์น

รอล์ฟ ฮอร์น วิศวกรแอปพลิเคชันของ DigiKey อยู่ในกลุ่มสนับสนุนด้านเทคนิคของยุโรปมาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและวิศวกรรมจากลูกค้าผู้ใช้งานจริงใน EMEA รวมถึงการเขียนและตรวจทานบทความและบล็อกภาษาเยอรมันใน TechForum ของ DK และแพลตฟอร์ม maker.io ก่อนมาร่วมงานกับ DigiKey เขาเคยทำงานกับผู้ผลิตหลายรายในด้านเซมิคอนดักเตอร์โดยเน้นไปที่ระบบ FPGA ไมโครคอนโทรลเลอร์ และโปรเซสเซอร์แบบฝังตัวสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและยานยนต์ รอล์ฟ สำเร็จการศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในเมืองมิวนิก รัฐบาวาเรีย และเริ่มอาชีพของเขาที่ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ในท้องถิ่นในตำแหน่งสถาปนิกระบบโซลูชัน เพื่อแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของเขาในฐานะที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้

About this publisher

DigiKey

DigiKey, based in Thief River Falls, Minn., is a global, full-service provider of both prototype/design and production quantities of electronic components, offering more than six million products from over 750 quality name-brand manufacturers at DigiKey.